วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

สูตรทำขนมครก

1. ขนมครกสารพัดหน้า

     เตรียมหน้าขนมให้พร้อม จะได้มาทำเมนูขนมครกสารพัดหน้า สูตรจาก  คุณ Three days before Valentine's ก่อนอื่นหยอดแป้งลงไปแล้วทับด้วยหน้ากะทิ สุดท้ายโรยหน้าขนมตูม ๆ พอสุกก็แคะเสิร์ฟกันเลย

ส่วนผสม แป้งขนมครก
     • แป้งข้าวเจ้า 400 กรัม
     • แป้งข้าวเหนียว 50 กรัม
     • น้ำกะทิ 3 ถ้วย
     • น้ำร้อนจัด 4 ถ้วย

ส่วนผสม หน้ากะทิ
     • หัวกะทิ 3 ถ้วย
     • น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
     • เกลือ 2 ช้อนชา

ส่วนผสม หน้าขนมครก
     • ฝอยทอง 
     • เผือก 
     • ข้าวโพด 
     • ต้นหอม

วิธีทำขนมครก
     1. ทำแป้งขนมครก โดยเทแป้งข้าวเจ้าใส่อ่างผสม ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว ค่อย ๆ เทน้ำกะทิตามลงไป คนอย่างเบามือ เติมน้ำร้อน คนจนทุกอย่างละลายเข้ากัน
     2. ทำหน้ากะทิ โดยเทน้ำตาลทรายใส่อ่างผสม ตามด้วยเกลือ จากนั้นเทหัวกะทิ คนส่วนผสมทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน
     3. นำถาดขนมครกขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟอ่อน ๆ ใช้น้ำมันใหม่เช็ดให้ทั่วทุกหลุมขนมครก พอถาดขนมครกเริ่มร้อน สังเกตว่ามีควันขึ้นเล็กน้อย ตักแป้งขนมครกหยอดลงไปจนเกือบเต็ม ตามด้วยหน้ากะทิ และโรยหน้าขนมครก ได้แก่ ฝอยทอง เผือก ข้าวโพด หรือต้นหอมตามชอบ ปิดฝารอจนแป้งสุก แคะขนมครกใส่ภาชนะ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมครกสารพัดหน้า.. น่าทานสุด ๆ

สูตรทำขนมฟักทอง

สูตรสังขยาฟักทองขนมไทยโบราณ อร่อยนุ่มละมุนลิ้น ลูกเดียวอิ่มคุ้มทั้งครอบครัว 
สังขยาฟักทอง

      เมนูจากฟักทองเอามาทำอาหารคาวจนเบื่อเปลี่ยนแนวมาทำขนมหวานกินเพลิน ๆ ดีกว่า โดยเฉพาะเมนูสังขยาไข่ยอดนิยม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำสังขยาฟักทอง หรือ ฟักทองสังขยา สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อฟักทองนึ่งเข้ากันดีกับสังขยาหวานหอม ถ้ากินทั้งลูกดูลำบากไปลองดัดแปลงเป็นเมนูสังขยาฟักทองแบบถาดก็เข้าท่านะคะ
     แจกสูตรความอร่อย สังขยาเนื้อเนียนนุ่มทำอย่างไรมาดูกันค่ะ โดย คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

     สังขยาฟักทอง ขนมหวานไทยยอดนิยม แจกสูตรความอร่อย สังขยาเนื้อเนียนนุ่มทำอย่างไรมาดูกันค่ะ

สังขยาฟักทอง

ส่วนผสม สังขยาฟักทอง


     • ฟักทอง (พันธุ์ศรีเมือง) ลูกเล็กไม่เกิน 1 กิโลกรัม จำนวน 2 ลูก
     • หัวกะทิ 250 กรัม
     • น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลโตนด) 500 กรัม
     • ไข่ไก่ 3 ฟอง
     • ไข่เป็ด 3 ฟอง
     • ใบเตย 5 ใบ
     • เกลือ (เล็กน้อย)

วิธีทำสังขยาฟักทอง

สังขยาฟักทอง

     ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ ใช้ช้อนขูดเอาเมล็ดและไส้ฟักทองออก แล้วนำไปล้างให้สะอาดผึ่งให้แห้ง

สังขยาฟักทอง

     เทหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ ตอกไข่ และใส่เกลือลงไป

สังขยาฟักทอง

     ใช้ใบเตยขยำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน

สังขยาฟักทอง

     กรองด้วยกระชอนแล้วเทใส่ในลูกฟักทอง (ส่วนผสมสังขยาสูตรนี้จะทำได้กับฟักทอง 2 ลูกนะคะ)

สังขยาฟักทอง

     นำไปนึ่งในน้ำเดือด จากนั้นก็ลดเป็นไฟอ่อน ใช้เวลานึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง (หมั่นเปิดฝาดูทุก ๆ 20 นาทีนะคะ)

สังขยาฟักทอง

     ครบเวลาแล้ว สังขยาฟักทองสุกน่ากิน

สังขยาฟักทอง

     พักสังขยาฟักทองให้เย็น แล้วจึงนำมาผ่าครึ่ง แบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ

สังขยาฟักทอง

     เนื้อเนียนสวย นุ่มละมุนลิ้น อร่อยสุด ๆ

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562

ภาพของหวานไทย

ช่อมรกต (อาหารว่างไทยโบราณ) - YouTube Thai Dessert, Laos, Thai Style, Thai Recipes, Asian Recipes, Thailand, Food Videos, Allrecipes, Sushi

ขนมไทยหายาก

ขนมไทยโบราณ หาทานยาก

8 ขนมไทยโบราณ หาทานยาก
นิตยสาร แม่บ้าน
สนับสนุนเนื้อหา
ขนมไทย... เป็นของหวานรสอร่อยที่มักถูกนำมาใช้ในพิธีสำคัญต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน ซึ่งเดี๋ยวนี้ขนมไทยหลายชนิดหารับประทานกันยากมาก อาจเป็นเพราะขั้นตอนการทำที่พิถีพิถันรวมถึงความประณีต จึงทำให้ขนมไทยหลายชนิดห่างหายไป แม่บ้านจึงขอนำขนมไทยที่น่าสนใจ 8 ชนิด มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน ซึ่งเชื่อว่าหลายชนิดอาจไม่มีขายให้เห็นในท้องตลาดแล้วก็เป็นได้
กระเช้าสีดา

ส่วนผสมมะพร้าว

มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 500 กรัม
น้ำตาลทราย 350 กรัม
น้ำลอยดอกมะลิ 250 กรัม
สีผสมอาหารต่างๆ ตามชอบ
ส่วนผสมตัวกระเช้า
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
เนยขาว 25 กรัม
เนยสดชนิดเค็ม 25 กรัม
น้ำเย็น 130 กรัม
ดอกไม้สำหรับตกแต่ง

วิธีการทำตัวกระเช้า

1. ผสมแป้งสาลี เนยขาว เนยสด ให้เข้ากัน
2. นวดจนเนียน ปิดด้วยถุงพลาสติก พักไว้ 30 นาที
3. คลึงแป้งให้บาง
4.ใช้พิมพ์กด
5. กรุลงในพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มก้นให้ทั่ว
6. แป้งที่เหลือทำเป็นเส้นเล็กๆ
7. วางลงในถ้วยตะไลให้มีลักษณะโค้งเพื่อใช้ทำหูกระเช้า
8. นำเข้าอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีเหลืองทอง
วิธีทำ

1. ใส่น้ำลอยดอกมะลิ น้ำตาลทรายลงในกระทะทอง คนให้ละลาย
2. พอเดือดใส่มะพร้าวทึนทึก
3. กวนจนแห้ง
4. แบ่งสีผสมอาหารอ่อนๆ ตามชอบ พักไว้ให้เย็น (ควรใส่สีขณะที่มะพร้าวยังร้อนอยู่)
5. นำมะพร้าวใส่ลงในกระเช้าที่อบไว้
6. เสียบหูกระเช้า
7. ตกแต่งด้วยดอกไม้น้ำตาล
ขนมจ่ามงกุฎ

ส่วนผสมตัวขนม

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
แป้งเท้ายายม่อม 10 กรัม
ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 6 ฟอง
กะทิ 230 กรัม
น้ำตาลทราย 160 กรัม
สีผสมอาหารสีเหลือง
ทองคำเปลว 100%
ส่วนผสมเม็ดแตงโม

เม็ดแตงโมแกะแล้ว 100 กรัม
น้ำตาลทราย 160 กรัม
น้ำลอยดอกมะลิ 200 กรัม
ส่วนผสมแป้งรองขนม

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง
ไข่ไก่ 1 ฟอง

หมายเหตุ
น้ำเชื่อมที่ใช้ติดเม็ดแตงโม เตรียมโดยผสมน้ำตาลทราย 50 กรัม กับน้ำเปล่าเล็กน้อย ยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวพอข้น ยกลงพักไว้ให้เย็น

วิธีการทำเม็ดแตงโม

1. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำลอยดอกมะลิ ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น
2. เอียงกระทะทองใส่เม็ดแตงโม
3. ใช้มือแตะน้ำเชื่อมพรมที่เม็ดแตงโมกวาดไปเรื่อยๆ พอน้ำเชื่อมเริ่มติดกระทะ
4. ให้เทเม็ดแตงโมมาอีกด้านของขอบกระทะ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบน้ำเชื่อมที่ติดกระทะอยู่ ทำเช่นนั้น สลับกันไปเรื่อยๆ
5. จนน้ำเชื่อมเกาะที่เม็ดแตงโมเป็นตะปุ่มตะป่ำ หรือที่เรียกว่าทนาม

วิธีทำแป้งสำหรับรองตัวขนม

1. ผสมแป้งสาลีกับไข่แดง และไข่ไก่เคล้าให้เข้ากัน
2. นวดจนเนียน
3. คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง
4. ใช้พิมพ์กดให้มีขนาดพอดีกับถ้วย และใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว
5. กรุแป้งลงในพิมพ์นำเข้าอบพอสุกเหลือง นำออกพักไว้ให้เย็น

วิธีทำตัวขนม

1. ร่อนแป้งสาลีและแป้งเท้ายายม่อมใส่ภาชนะ ใส่น้ำตาลทราย ไข่แดง สีผสมอาหารให้เข้ากัน
2. ใส่กะทิผสมให้เข้ากัน
3. กรองด้วยกระชอน ใส่ในกระทงทอง
4. ยกขึ้นกวนด้วยไฟอ่อน
5. จนแป้งรวมตัวเป็นก้อน และเนียนใส ยกลงคลุมด้วยผ้าขาวบางจนส่วนผสมอุ่น
6. จุ่มปลายเม็ดแตงโมที่เตรียมไว้ลงในน้ำเชื่อม
7. นำไปติดบนแป้งที่อบไว้ให้รอบ ประมาณ 6-7 เม็ด ผึ่งให้น้ำเชื่อมแห้ง
8. ปั้นส่วนผสมแป้งให้เป็นก้อนกลม ใช้ไม้จิ้มฟันทำเป็นรอยประมาณ 6 รอย
9. วางบนเม็ดแตงโมที่เตรียมไว้
10. ปั้นส่วนผสมให้เป็นก้อนกลมเล็กๆ วางบนยอด ตกแต่งด้วยทองคำเปลวให้สวยงาม